วันอาทิตย์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

Slender Man


มันมีเว็บนึงที่ชื่อ somethingawful ที่ให้ตัดต่อภาพถ่ายผี ปีศาจ เรื่องเหนือธรรมชาติ และก็มีคนตัดต่อภาพไอตัวนี้ขึ้นมา ลักษณะของมันคือ ปกติจะเห็นเงาๆ ไม่มีคนเห็นชัด ตัวสูงๆผอมๆ ไม่มีหน้า ใส่สูทสีดำ? มีแขนยาว หนวดระโยงระยาง แล้วมันจะลักพาตัวเด็กไป อันนี้คือเนื้อเรื่องมัน ซึ่งมันอาจจะมีมากกว่านั้น 

ซีรีย์Marble Hornetsเป็นซีรีย์ที่ให้อารมณ์เหมือนเป็นเรื่องจริง แต่จริงๆก็ถ่ายขึ้นมา ประมาณแบบparanormal activityหรือblair witch ซึ่งก็เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับSlendermanนี่แหละ ซึ่งการดูต้องดูคลิปในMarble hornetsไปด้วยและก็ต้องดูคลิปของTothearkไปด้วย เพราะมันจะสัมพันธ์กัน เราดูไปได้20กว่าตอนเมื่อนานมาแล้วสมัยมันมี30กว่าตอน ก็ไม่ได้ดูต่อเพราะลืม+เบื่อ ตอนนี้มี51ตอนแล้ว ลักษณะการถ่ายทำจะเหมือนถือกล้องถ่ายแบบหนังอินดี้ แต่!!ไม่ใช่แค่นั้น บางที ดูไปก็จะมีพวกนอยส์ ภาพบิดเบี้ยว จอซ่า จอแตก เสียงประหลาดๆ ที่ในเรื่องบอกว่าเป็นการที่พบเจอกับ slenderman 

เรารู้จักปีศาจตัวนี้มานานแล้ว แต่ตอนนี้เหมือนทุกคนจะเล่นเกม Slender กันหมดจนอาจจะพอรู้หรืออยากรู้บ้างว่าเจ้าสเลนเดอร์แมนตัวนี้มันคืออะไรแล้วโผล่มาได้ยังไงในเกม ต้องขอเล่าความเ็ป็นมาก่อน 

เมื่อปี 2009 ที่เว็บนี้ได้จัดกิจกรรมแต่งภาพถ่ายธรรมดาให้เป็นขาวดำและตกแต่งให้มีสิ่งเหนือธรรมชาติภายในภาพแล้วก็สร้างตำนานเรื่องหลอกว่าสิ่งลึกลับภายในรูปนั้นมีอยู่จริง มีคนมากมายได้ร่วมกิจกรรมนี้ แต่มีอยู่รูปถ่ายของปีศาจรูปหนึ่งเป็นที่น่าสนใจกับคนในบอร์ด ภายในรูปภาพนั้นเป็นรูปกลุ่มเด็กกำลังเล่นในสวนอย่างสนุกสนาน ดูเผินๆแล้วเหมือนกับจะเป็นภาพขาวดำธรรมดา แต่หากสังเกตดีๆจะเห็นชายสูงโปร่งที่มีหนวดยืนรวมอยู่กับเด็กๆด้วยภาพตัดต่อนี้ทำให้เป็นที่สนใจหลายๆคนมาก จนผู้ตกแต่งเริ่มคิดอยากจะสร้างเจ้าสิ่งลึกลับนี้กลายเป็นตำนานไปจริงๆโดยการถ่ายหนังแบบเรื่องแบลร์วิช ซึ่งเข้าอัพโหลดลงยูทูปไว้นานแล้วอยากรู้ก็ขอให้ไปคุ้ยเอง ตั้งแต่นั้นมาสเลนเดอร์แมนจึงเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย มีทั้งแฟนอาร์ท หนังพาโรดี้ และถึงกับมีเกมที่ชื่อว่า Slender ซึ่งตอนนี้คนเล่นกันอย่างแพร่หลาย 

รูปลักษณ์ 

สเลนเดอร์แมนเป็นสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติที่รูปร่างสูง ผิวขาวซีด ไม่มีใบหน้า ไม่มีผม ปล่อยหนวดหมึกออกมาได้(?) ซึ่งบางตำนานบอกว่าเขาสามารถเอาหนวดหมึกมาเดินแบบแมงมุมได้ด้วย รวมถึงแขนตัวเองสามารถงอกออกมาอีกได้เกือบๆสิบแขน สเลนเดอร์แมนมีชีวิตมาหลายร้อยปีตั้งแต่ยุค Madieval เกร็ตเล็กๆน้อยคือเสื้อผ้าของเขาสามารถเปลี่ยนแปลงไปตามการเวลายุคสมัยได้เพื่อสร้างความหน้าเชื่อถือให้กับเหยื่อ (ในเว็บเค้าเล่าแบบนี้ แต่เราว่าเป็นเพราะรสนิยมของตัวสเลนเดอร์เองมากกว่า เพราะถึงมันแต่งตัวให้ดียังไงมันโผล่มาคนก็เผ่นหมดแหล่ะ) ในยุคแรกสเลนเดอร์แมนได้สวมชุดแบบอัสวิน เมื่อการเวลาเปลี่ยนมาถึงยุคบาร็อกหรือร็อกโคโค่ สเลนเดอร์จะสวมชุดแบบขุนนาง ดังนั้นแน่นอนว่าหากเป็นยุคปัจจุบันนั้นคือยุคนี้ ต้องเลือกเสื้อสูทมาสวมแน่นอน)

ความสามารถ 

- การคลื่อนไหว
แม้จะมีขาสองข้าง แต่สเลนเดอร์พอใจกับการวาร์ปจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดนึงมากกว่า (แบบในเกม Slender)

 - การล่องหน
โดยปกติเราจะไม่เห็นสเลนเดอร์นอกจากเขาจะเลือกให้เราเป็นผู้มองเห็น ซึ่งผู้ที่เห็นมักจะเป็นเหยื่อที่เขาเลือกและเตรียมใจได้เลยว่าไม่รอด ตายแน่นอน สิ่งที่ช่วยในการมองเห็นคือกล้องทุกชนิด แน่นอนว่าคุณสามารถใช้ไอโฟนส่องไปทั่วเพื่อตามหาสเลนเดอร์ได้ อ่านตรงนี้เสร็จลองทำดูก็ได้นะ 

- การควบคุมจิตใจ
สเลนเดอร์มักใช้วิธีนี้กับเหยื่อที่เริ่มป่วยทางจิตและเด็ก แน่นอน เหยื่อที่ง่ายที่สุดในการสื่อสารสร้างมิตรภาพคือเด็ก เมื่อตัดสินใจเลือกเหยื่อที่เป็นเด็กแล้วมันจะแสร้งปล่อยออร่าเป็นมิตรกับเด็ก และเมื่อเด็กเชื่อใจแล้วมันจะพาเด็กเดินเข้าป่าจากนั้นจึงจับกินเสีย ถึงผู้ปกครองทุกท่าน หากลูกของท่านพูดคนเดียวแล้วมาบอกว่าเพื่อนชวนไปเล่นในป่า...ก็ปล่อยให้ลูกเข้าไปในป่าคนเดียวซะ เพราะถ้าผู้ปกครองไปเห็นสเลนเดอร์ละก็จะต้องมีอันเป็นไปเช่นเดียวกับลูกคุณ 

- ลอกเลียนแบบ
ถึงมันจะไม่มีปากก็เหอะ แต่สามารถลอกเลียนเสียงคนที่เรารู้จักได้ มันมักใช้วิธีนี้ล่อให้เหยื่อออกมาจากตัวบ้าน แถมลอกเลียนเสียงหัวเราะของเด็กได้ด้วย (น่ากลัวโคตร)

พฤติกรรม 

- ไม่มีใครรู้วิธีเลือกเหยื่อของสเลนเดอร์ แต่มีบางตำนานกล่าวว่าสเลนเดอร์มักเลือกเด็กหรือบุคคลที่มีจิตใจเศร้าหมองและท้อแท้

- หากเหยื่อเป็นเด็กสเลนเดอร์จะแสดงที่ทีเป็นมิตรเพื่อให้เหยื่อตายใจ แต่หากเหยื่อเป็นผู้ใหญ่มันตามเหมือนเจ้ากรรมนายเวรตลอดเวลาจนเหยื่อเกิดอาการป่วยอย่างรุนแรง ซึ่งมักมีอาการเลือดกำเดาไหล ฝันร้าย เห็นภาพหลอน ฯลฯ 

- มักฆ่าเหยื่อในป่า (เพราะป่าเป็นบ้านของเค้าอ่ะนะ) แต่โดยรวมแล้วฆ่าได้ทุกสถานที่ ปล. ตำนาน

slenderman นี้ถือเป็นตำนานที่แต่งขึ้นมาของพวกฝรั่งเขาก็ว่าได้ บางที slenderman อาจจะอ้างอิงมาจากมนุษย์เงาก็เป็นได้

Candy

"แม่ค่ะ.." เด็กสาวตัวน้อยกล่าว ในขณะที่เธอขยี้ตาของเธอ และยืนเปิดประตูเข้าไปในห้องนอนของแม่ของเธอ
"แม่ค่ะ กระต่ายอีสเตอร์มันกำลังกินลูกอมของหนู" เธอกล่าว
"ไร้สาระน่ะ ลูกรัก" แม่ของเธอกล่าว
"กระต่ายอีสเตอร์มันจะให้ลูกอม ไม่ใช่กินลูกอม "
เธอค่อยๆจับผ้าห่มของเธอ แล้วพูดต่อ พูดกับหมอนส่วนหนึ่ง 
พูดกับลูกของเธออีกส่วนหนึ่ง "กลับไปนอนได้แล้วลูกรัก"
"แต่แม่ค่ะ"เด็กน้อยกล่าว"กระต่ายอีสเตอร์มันกำลังกินลูกอม!" เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่รุนแรงมากขึ้น ราวกับว่าเธอกำลังจะร้องไห้ 
แม่ของเธอลุกขึ้นนั่งและเปิดอ้อมแขนของเธอ "ลูกรัก แม่บอกลูกแล้วนี่นา. กระต่ายอีสเตอร์ไม่กินลูกอม แต่เขาจะแจกมันให้กับเด็กเล็ก ๆ . นอกจากนั้่นตอนนี้ก็ยังไม่ถึงอีสเตอร์ด้วย. กลับไปนอนซะนะ" เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่ใจดี 
"ตกลงค่ะ แม่" เด็กน้อยถอนหายใจในขณะที่เธอกำลังจะหันเดินออกไปจากห้องนอน 
แม่ของเธอยิ้มและคิด "เด็กน้อยเพ้อฝันและเพื่อนในจินตนาการที่มีชีวิตของเธอ" แล้วกลับไปนอนต่อตามความตั้งใจของเธอ

ข้างนอกห้องโถง, เด็กน้อยยืนนิ่งอยู่พักหนึ่ง 
จ้องมองกระต่ายอีสเตอร์กินลูกอมของเธอ แล้วเธอก็ถอนหายใจ 
"แม่บอกว่าฉันควรจะกลับไปที่เตียง." 
กระต่ายอีสเตอร์ยิ้ม "มันเป็นความคิดที่ดี เด็กน้อย. กลับหลังหันไป แล้วไม่ต้องมองย้อนกลับมาอีก." 
เขาดีดจี้โลหะส่งให้กับเธอ เธอหยิบมันขึ้นมาและร้องไห้ในขณะที่เธอมองเห็นว่าสิ่งนั้นมันก็คือแผ่นป้ายชื่อสุนัขที่พิมพ์ชื่อไว้ว่า 
"ลูกอม" 


วันศุกร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

Jeff the killer

หนังสือพิมพ์ฉบับท้องถิ่น

เขียนไว้ว่า

มีลางสังหรณ์ที่ว่า ฆาตกรคนนี้ยังคงออกอาละวาด และไม่รู้ว่าหยุดอาละวาดเมื่อไหร่

หลังจากไม่กี่อาทิตย์ที่ผ่านไป ฆาตกรที่ไม่อาจอธิบายได้ มีลางสังหรณ์ว่าจะมีฆาตกรคนใหม่เกิดขึ้น และไม่รู้ว่าจะจบเมื่อไหร่
หลังจากที่เราได้เห็นหลังฐานอันน้อยนิดนี้ ก็มีเด็กผู้ชายคนที่เป็นคนเดียวที่รอดมาจากเนื้อมือของฆาตกร
แล้วเขาก็บอกเรื่องของเขาจากการถูกทำร้ายและหนีออกมาได้
"ผมฝันร้าย และผมก็ตื่นขึ้นมาในกลางดึก" เด็กคนนั้นพูดออกมาก
"ผมตื่นขึ้นมาและรู้สึกแปลกๆและมองไปเห็นว่าหน้าต่างเปิดอยู่ แต่ผมจำได้ว่าผมไม่ได้เปิดมัน เพราะผมปิดมันไปแล้วก่อนเข้านอน"
"ผมได้ลุกขึ้นและเดินไปปิดมันอีกครั้งนึง"
"หลังจากนั้น ผมก็ได้คลานไปบนที่นอนของผมและพยายามจะหลับอีกครั้งนึง"
"หลังจากนั้นผมก็รู้สึกเหมือนมีคนมองมา"
"ผมมองขึ้นไป..จากนั้นผมก็กระโดดลุกขึ้นนั่งบนตียงเพราะความกลัว"
"ในที่ๆมีแสงน้อยตรงนั้น .. ตรงผ้าม่านของผม"
"มีตาสีขาวสองคู่มองมาที่ผม และผมก็รู้ทันทีว่า มันไม่ใช่ตาของมนุษย์ปกติแน่นอน"
"มันมืดมนต์ .. เป็นตาที่มีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีเอาเสียเลย
"ตาคู่นั้นจ้องมาที่ผมด้วยความมืดอย่างน่ากลัว"
"มันแน่อยู่แล้วล่ะที่ผมจะต้องกลัว" เด็กคนนั้นบ่นออกมาเล็กน้อย
"และนั่นเป็นครั้งแรกที่ผมเห็นปากของเขา"
"มันเป็นยิ้มที่ฉีกถึงหู .. "
"ผมกลัวมากจนอยู่นิ่งอยู่ตรงนั้นด้วยร่างกายที่สั่นเทา"
"เขาพุ่งมาที่ปลายเตียงของผมและพูดประโยคง่ายๆ .. แต่เป็นประโยคที่บ้าคลั่งมาก"
"เขาพูดว่า "Go To Sleep" พร้อมกับรอยยิ้มอันน่ากลัวและเล็งมีดมาที่หัวใจของผม"
"ผมพยายามหลบและสู้กับเขา"
"ผมรีบวิ่งไปที่ประตูหน้าห้องของพ่อเมื่อมีโอกาส และเคาะมันแรงๆหลายๆครั้งด้วยกันให้พ่อออกมาช่วย"
"แต่มันตามผมมาทันแล้ว! เป็นจังหวะเดียวที่พ่อผมเปิดประตูออกมา"
"เขาปามีดมาจนมันปักเข้าที่ไหล่พ่อของผม!"
"เขาออาจจะฆ่าผมกับพ่อแล้วก็ได้ .. ถ้าคนในบ้านไม่โทรแจ้งตำรวจเสียก่่อน"
"ผมรีบพาพ่อมายังรถเพื่อพาพ่อของผมไปโรงพยาบาล"
"ขณะที่ผมกำลังขับรถอยู่ ผมเหลือไปเห็นตรงกระจกว่า .."
"ผู้ชายคนนั้นวิ่งออกไปตามถนนด้วยความเร็ว"
"ลักษณะของเขาคือ ผู้ชายผมยาวสีดำ ผิวขาวซีด ใส่เสื้อฮู้ดสีขาว ใส่กางเกงยีนส์สีดำ และ ใส่รองเท้าสีแดงขาว"
"ในขณะนั้นเอง เขาหันกลับมาและแสยะยิ้มใส่ผม"
"ซึ่งผมจะไม่มีวันลืมใบหน้าที่ติดตาผมอยู่นั้นเลย .."



-----------------------------------------------------------------------
เจฟฟ์และครอบครัวของเขาเพิ่งย้ายเข้ามาในพื้นที่ใกล้เคียงใหม่ พ่อของเขาได้รับการส่งเสริมในที่ทำงาน และพวกเขาคิดว่ามันจะดีที่สุดที่จะอาศัยอยู่ในละแวกใกล้เคียง
"แฟนซี" เจฟฟ์และพี่ชายของเขา ลูว์ .. ไม่สามารถที่จะหลุดอุทานออกมาว่าบ้านใหม่ของเขาเยี่ยมมากๆ ก็ไม่ได้มีอะไรที่แย่ ?
"สวัสดีค่ะ ฉันบาร์บาร่าอาศัยอยู่บ้านฝั่งตรงข้ามกับคุณ ฉันแค่อยากจะแนะนำตัวและแนะนำลูกชายของฉัน" เธอยิ้มและเรียกลูกชายของเธอมา
"บิลลี่ นี่คือเพื่อนบ้านใหม่ของเรา" บิลลี่กล่าวทักทายหญิงสาวและวิ่งกลับเข้าไปเล่นในบ้านของเขา
"โอ้ .. ดีๆ " แม่ของเจฟฟ์กล่าว "ฉันมากาเร็ตค่ะ และนี่ปีเตอร์ สามีของฉัน และลูกชายสองคนของฉัน เจฟฟ์กับลูว์" พวกเขาแต่ละคนแนะนำตัวเองและหลังจากนั้นบาร์บาร่าก็ได้เชิญให้พวกเขาไปงานวันเกิดลูกของเธอ เจฟฟ์และลูว์คัดค้านเล็กน้อยที่แม่เขากล่าวว่าทั้งสองไม่ชอบที่จะไปงานวันเกิดคนอื่น และเมื่อดำเนินการเสร็จ เจฟฟ์จึงเดินนขึ้นไปหาแม่ของเขาบนห้อง
"แม่ครับ ทำไมถึงไม่ให้ผมไปงานปาร์ตี้ของคนอื่นบ้าง ถ้าแม่ไม่สังเกตุเห็น ผมก็ไม่ต่างจากเด็กโง่คนนึง"
"เจฟฟ์" แม่ของเขากล่าว
"เราเพิ่งย้ายมาใหม่ เราควรจะแสดงให้เห็นว่าเราต้องการที่จะใช้เวลาร่วมกับเพื่อนบ้านของเรา และตอนนี้เราจะต้องไปงานเลี้ยงของเธอ"
เจฟฟ์เริ่มที่จะพูดคุยกับแม่ของเขาและหยุดตัวเองเมื่อเขารู้ว่าตัวเองไม่สามารถทำอะไรได้ เขาเดินไปที่เตียงและทิ้งตัวลงบนเตียงของเขาก่อนจะพลิกตัวมองขึ้นไปบนเพดาน
เขามีความรู้สึกแปลกๆ .. มันไม่เจ็บปวด แต่มันแค่รู้สึกแปลกๆ เขาได้ยินเสียงแม่ของเขาเรียกให้เขาลงไปรับบางอย่าง และเขาก็ได้เดินลงไปเพื่อรับมัน
วันต่อมา , เจฟฟ์เดินลงมาจากห้องนอนและไปที่ห้องครัวแล้วรับประทานอาหารเช้าเพื่อเตรียมตัวให้พร้อมกับการไปโรงเรียน
หลังจากที่เขานั่งอยู่ตรงนั้นและรับประทานอาหารเช้า เขารู้สึกเหมือนเดิมอีกครั้ง แต่ว่าครั้งนี้เขาได้ปฏิเสธมัน
หลังจากที่และลูว์ได้รับประทานอาหารเสร็จแล้ว จึงพากันเดินไปที่ป้ายรถเมล์เพื่อรอรถที่กำลังมา
และแล้ว .. ก็มีเหตุการณ์เกิดขึ้น!
มีเด็กคนหนึ่งเล่นสเก็ตบอร์ดผ่านมาและล้มลงทำให้นิ้วของเด็กคนนั้นสัมผัสกับตักของเจฟฟ์
จากนั้นทั้งคู่ก็รีบถอยออกมาเพราะความตกใจ!
เด็กคนนั้นหันกลับมาและพูดกับทั้งสองว่า
"เกิดอะไรขึ้นวะ!?"
เด็กคนนั้นเตะสเก็ตบอร์ดขึ้นและถือมันไว้ในมือ รู้สึกว่าเด็กคนนั้นจะอายุประมาณ12ซึ่งห่างจากเจฟฟ์1ปี ..
เขาใส่เสื้อ Aeropostale และกางเกงยีนส์สีน้ำเงินขาดๆ
"โอ้ .. ไง ไง ไง รู้สึกว่าพวกเราจะได้เหยื่อรายใหม่แล้วสินะ" ทันใดนั้นเองก็มีเด็กอีก2คนโผล่มา คนนึงมีรูปร่างผอมมากๆ ส่วนอีกคนนึงตัวใหญ่มาก
"รู้สึกว่าพวกนายจะเป็นคนใหม่ของที่นี่สินะ  ฉันจะแนะนำให้รู้จัก นี่คือเคธ" เจฟฟ์และลูว์มองไปที่เด็กที่ผอมแห้งคนนั้น หน้าของเด็กคนนั้นดูเหมือนกับคนติดยา
"และคนนี้คือทรอยด์" หลังจากนั้นพวกเขาก็หันกลับไปมองที่เด็กอ้วนๆ เขานึกถึงเรื่องอ่างน้ำมันหมูอะไรสักอย่าง ? เด็กคนนี้ดูเหมือว่าเขาไม่เคยออกกำลังกายเลยตั้งแต่คลานออกจากท้องแม่
"และฉัน" เด็กคนที่ล้มกล่าว "ฉันคือแรนดี้ และตอนนี้เด็กทุกคนที่อยู่ในย่านนี้มักจะจ่ายค่าธรรมเนียมเล็กๆน้อยๆก่อนจะขึ้นรถบัสทุกครั้ง และเมื่อครู่คุณมาขวางทางของผม"
หลังจากนั้นลูว์ก็ยืนขึ้นและเตรียมพร้อมที่จะต่อยเด็กพวกนั้นเข้าที่ตา เมื่อเห็นเด็กคนนึงกำลังดึงมีดออกมา
"ชู่ววว ว์ .. ฉันหวังว่าคุณจะให้ความร่วมมือกับเรามากกว่านี้นะ รู้สึกว่าเราจะทำแรงมากไปหน่อย" หลังจากนั้นเด็กคนนั้นก็เดินไปหาลูว์และดึงกระเป๋าของลูว์ไป
เจฟฟ์รู้สึกอีกครั้งนึง .. และมันรุนแรงมาก! ความร้อนในตัวของเขาพุ่งขึ้นมาทำให้เขายืนขึ้นมาด้วย
แต่ว่าลูว์ได้ชี้มาที่เจฟฟ์พร้อมสั่งให้เขานั่งลง แต่ว่าเจฟฟ์ปฏิเสธและเดินไปหาเด็กพวกนั้น
"เฮ้ .. ไอ้เด็กบ้า คืนกระเป๋าพี่ฉันมานะ" แรนดี้ได้เอากระเป๋าเงินใส่กระเป๋าตัวเองและวางมีดลง
"โอ้ .. แล้วคุณจะทำยังไงกับฉันเหรอ ?" หลังจากที่เด็กคนนั้นพูดจบ เจฟฟ์ได้เดินไปบีบจมูกของเด็กคนนั้นแล้วดึงหน้าของเขามาหาหน้าของเจฟฟ์ และจับข้อมือของเด็กคนนั้นพร้อมหักมันทิ้ง
แรนดี้กรีดร้องออกมา จากนั้นเจฟฟ์ได้หยิบมีดจากมือของเขา ทรอยด์และเคธได้วิ่งเข้าไปหาเจฟฟ์ แต่เจฟฟ์เร็วเกินไป เขาปาแรนดี้ลงกับพื้น เคธทำท่าจะฟาดเข้าที่ตัวเจฟฟ์ แต่เจฟฟ์หลบได้และแทงมีดไปที่แขนของเขา
เคธล้มคุกเข่ากับพื้นและกรีดร้องออกมา จากนั้นทรอยด์ก็วิ่งเข้าหาเจฟฟ์ แต่เจฟฟ์ไม่ต้องการมีดแล้ว เจฟฟ์ต่อยเข้าที่ท้องของทรอยด์อย่างจังจนเขาล้มลงกับพื้น
หลังจากที่ทรอยด์ล้มลงกับพื้นก็ถึงกับอ้วกออกมา ลูว์ที่มองอยู่ได้แต่นิ่งงันและมองดูเจฟฟ์ด้วยความประหลาดใจ
"จ-เจฟฟ์ .. นายทำได้ยังไง ?" ลูว์ได้พูดออกมา หลังจากนั้นพวกเขาก็ได้เห็นรถบัสมา เจฟฟ์กับลูว์ได้แต่คิดว่างานเข้าแน่ๆหากคนบนรถเห็นว่าพวกเขาทำอะไรลงไป จากนั้นพวกเขาก็ได้รีบวิ่งออกจากสถานที่นั้นไปอย่างรวดเร็ว
ในขณะที่พวกเขาวิ่งก็ได้หันไปมองว่าและพบว่ารถบัสกำลังวิ่งไปที่พวกแรนดี้ หลังจากที่เจฟฟ์กับลูว์มาถึงโรงเรียน พวกเขาไม่สามารถพูดได้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับใคร พวกเขาทั้งหมดได้แค่นั่งแล้วก็ฟัง
ลูว์ได้แต่คิดว่าน้องชายของเขาได้สั่งสอนเด็กพวกนั้นจนหมอบ แต่เจฟฟ์กลับรู้สึกว่ามันมากกว่านั้น และมันเป็นนบางสิ่งที่น่ากลัว ในขณะที่เขาได้รู้สึกแปลกๆนั้น เขาก็รู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่มีพลังมากๆ
มันเป็นสิ่งที่กระตุ้นให้เขาทำมันลงไป .. เขาไม่อยากรู้หรอกว่ามันเป็นยังไง แต่เขาไม่สามารถรู้สึกมีความสุขได้ เขารู้สึกว่าความรู้สึกแปลกๆนั่นได้หายไปแล้ว และมันก็หายจากไป ..
หลังจากที่เขาได้เดินกลับบ้านตามกำหนด มีบางสิ่งบางอย่างอยู่ใกล้ๆกับป้ายรถเมล์ และเขาไม่ต้องการที่จะขึ้นรถบัสอีกต่อไปและรู้สึกมีความสุข
เมื่อเขากลับถึงบ้าน พ่อแม่ของเขาได้ถามกับเจฟฟ์ว่าวันนี้เป็นไงบ้าง
เจฟฟ์ได้พูดด้วยน้ำเสียงแปลกประหลาดและดูน่ากลัว
"มันเป็นวันที่วิเศษที่สุด"
เช้าวันต่อมา , เขาได้ยินเสียงเคาะประตูจากด้านหน้า เขาเดินลงมาและรู้สึกว่าจะได้เจอกับตำรวจสองคนที่ยืนอยู่หน้าประตู จากนั้นได้แม่เขาก็ได้มองไปที่เจฟฟ์ด้วยความโกรธ
"เจฟฟ์, เจ้าหน้าที่สองคนนี้บอกว่าลูกไปทำร้ายเด็ก3คนนั้น มันไม่ใช่การต่อสู้ที่ปกติด้วย และพวกเขาโดนแทง!" เจฟฟ์หลุบตามองที่พื้นราวกับยอมรับความจริง ซึ่งเป็นการบอกว่านั่นเป็นเรื่องจริง
"แม่ครับ แต่มีเด็กคนหนึ่งหยิบมีดออกมาและทำท่าจะแทงลูว์กับผม"
"เด็กน้อย.." ตำรวจคนนึงพูดขึ้นมา "เราเห็นเด็ก2คนถูกแทง คนนึงมีรอยช้ำที่ท้อง และมีพยานรู้เห็นเกี่ยวกับการที่เธอทำและหลบหนีไป คราวนี้เธอจะบอกกับพวกเราว่าไงล่ะ ?"
เจฟฟ์ก็รู้อยู่แล้วล่ะว่ามันคงไม่มีประโยชน์หากเขาพูดออกไป แต่เขาก็อยากจะพูดออกไปว่าเขากับลูว์โดนทำร้าย แต่มันไม่มีหลักฐานอะไรเลยที่บ่งบอกว่าเขาจะโดนทำร้ายก่อน
เขาไม่สามารถพูดความรู้สึกนั้นได้ เพราะอย่างนั้นเจฟฟ์และลูว์เลยไม่สามารถที่จะปกป้องตัวเองได้
"ลูก .. ไปเรียกพี่ของลูกลงมา" เจฟฟ์ไม่สามารถไปเรียกพี่เขาลงมาได้เนื่องจากเขาเป็นคนเดียวที่ทำร้ายเด็กพวกนั้น
"ได้โปรดเถอะครับ มีเพียงผมคนเดียวที่ทำร้ายเด็กพวกนั้น ลูว์พยายามจะห้ามผมแล้ว แต่เขาไม่สามารถจะทำได้" หลังจากนั้นตำรวจก็ได้ไปดูที่หน้าของลูว์และพยักหน้าให้กัน
"เอ่อ..เด็กน้อย ดูเหมือนว่ามันจะเป็นปีที่เฮงซวยของเธอแล้วล่ะ.."
"เดี๋ยวก่อน!" ลูว์พูดออกมา หลังจากนั้นทุกคนก็ได้มองไปเห็นลูว์กำลังถือมีดไว้อยู่ ตำรวจทั้งสองได้รีบชักปืนออกมาพร้อมทำท่าที่จะเข้าไปล็อคตัวลูว์
"มันเป็นผมเอง! ที่ไปทำร้ายเด็กพวกนั้น! คุณเห็นหลักฐานที่ผมถือนั่นมั๊ย!?" เขาได้ดึงแขนเสื้ออของตัวเองขึ้นและโชว์รอยบาดและรอยฟกช้ำที่แขนของเขาให้เห็นว่า เขาอยู่ในการต่อสู้จริงๆ
"เด็กน้อย .. วางมีดลง" ลูว์ได้วางมีดลงและเดินเข้าไปหาตำรวจทั้งสอง จากนั้นก็มีคำพูดของเจฟฟ์ดังขึ้นมา
"ไม่นะลูว์! ผมเป็นคนทำเอง พี่ไม่ได้ทำ!" เจฟฟ์ร้องไห้ออกมา
"เฮ้อ .. น้องชายที่น่าสงสาร พยายามจะปกป้องผมและโยนความผิดให้ตัวเอง .. พาผมไปโรงพักเถอะครับ" หลังจากนั้นตำรวจได้พาเขาไปที่รถตำรวจ
"ลูว์! บอกพวกเขาสิ! ว่าผมเป็นคนทำ! บอกเขา! บอกว่าผมเป็นคนทำร้ายเด็กพวกนั้น!" เจฟฟ์ได้กล่าวขึ้นมา หลังจากนั้นแม่ของเจฟฟ์ได้ยื่นมือไปแตะที่ไหล่ของเขา
"เจฟฟ์ .. ได้โปรดเถอะลูก อย่าโกหกเลย เรารู้แล้วว่าลูว์เป็นคนทำ อย่าโกหกเลย" เจฟฟ์มองไปด้วยความสิ้นหวังที่รถของตำรวจแล่นออกไปจากหน้าบ้านของเขา หลังจากนั้นไม่กี่นาทีต่อมา พ่อของเจฟฟ์ได้ขับรถกลับมาเห็นความผิดปกติบนใบหน้าของเจฟฟ์
"ลูก .. มันเกิดอะไรขึ้น ?" เจฟฟ์ไม่สามารถตอบได้ เสียงของเจฟฟ์สั่นราวกับว่ากำลังร้องไห้อยู่ หลังจากนั้นแม่ของเจฟฟ์ได้เดินไปหาสามีของเธอเพื่อนบอกข่าวร้ายว่าเจฟฟ์ทำอะไรลงไปในขณะที่เจฟฟ์เอาแต่ร้องไห้และมองไปที่ถนน
หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมงต่อมา เจฟฟ์ได้เดินเข้าไปที่้บ้าน เจฟฟ์ก็ได้เห็นพ่อแม่ของเขาเกิดอาการช็อคและเศร้า และดูเหมือนหมดความสิ้นหวัง เจฟฟ์ไม่สามารถมองพวกเขาได้ เจฟฟ์ไม่สามารถที่จะบอกได้ว่าลูว์รับผิดแทนเขา
เจฟฟ์แค่ต้องการที่จะหลับ .. และพยายามลืมเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้น
สองวันผ่านไป, ไม่มีข่าวจากลูว์และเจ้าหน้าที่ในคุก ไม่มีเพื่อนที่จะออกไปกับเขาด้วย มีแต่ความเศร้าหมองและความรู้สึกผิด
จนกระทั่งถึงวันเสาร์ จากนั้นเจฟฟ์ก็ถูกปลุกด้วยแม่ของเขาที่มีใบหน้ายิ้มแย้ม เธอได้เปิดม่านเพื่อรับแสงแดดในห้องของเขา
"เอ๊ะ..? วันนี้วันอะไรเหรอ ?" เจฟฟ์ได้ถามด้วยน้ำเสียงกึ่งหลับกึ่งตื่น
"อ้าว! ทำไมน่ะเหรอ ? ก็วันนี้เป็นคนวันปาร์ตี้ของบิลลี่ไงล่ะ!"
"แม่! แม่ล้อเล่นกับผมใช่มั๊ย ? แม่จะให้ผมไปงานปาร์ตี้ของคนอื่นหลังจากที่.........."
"เจฟฟ์ .. เรารู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นนะ แม่คิดว่ามันเป็นสิ่งเดียวที่จะทำให้วันแย่ๆที่ผ่านไปของลูกดีขึ้น และตอนนี้ ลูกไปแต่งตัวได้แล้ว" แม่ของเจฟฟ์ได้เดินออกไปจากห้องของเจฟฟ์และเดินไปชั้นล่างเพื่อเตรียมตัวเช่นกัน เจฟฟ์พยายามทำให้ตัวเองตื่นขึ้น เขาได้หยิบสุ่มหยิบเสื้อใกล้ๆตัวและกางเกงยีนส์ออกมา หลังจากนั้นก็เดินลงไปข้างล่าง
เขาได้เห็นพ่อกับแม่แต่งชุดเรียบร้อยแล้ว แม่ของเขาสวมชุดราตรี และพ่อของเขาใส่ชุดสูท เจฟฟ์นั้นได้คิดว่าทำไมพวกเขาถึงไม่แต่งชุดแฟนซีไปที่งานของเด็กๆ
"ลูกจะใส่ชุดนั้นไปจริงๆเหรอ ?" แม่ของเขากล่าวขึ้น
"ก็ดีกว่าที่จะแต่งอะไรเยอะๆมากเกินไปนั่นแหละครับ" แม่ของเขารู้สึกอยากจะตะโกนต่อว่าลูกของตัวเองแต่เพียงทำได้เก็บไว้ใต้รอยยิ้ม
"ตอนนี้นะเจฟฟ์ เราได้แต่งชุดเต็มยศแต่ลูกของเราแต่งชุดสบายๆแบบนี้เพื่อให้คนอื่นดูประหลาดใจเหรอลูก" พ่อของเขาได้กล่าวขึ้นราวกับประชดเล็กน้อย หลังจากนั้นเจฟฟ์ได้ถอนหายใจออกและกลับขึ้นไปบนห้อง
"ผมไม่มีชุดแฟนซีสักตัวเลย!" เขาตะโกนลงมา
"แค่หยิบอะไรออกมาก็ได้ลูก" แม่เขาส่งเสียงตอบกลับไป เจฟฟ์ได้มองไปรอบๆตู้เสื้อผ้าเพื่อมองว่าชุดแบบไหนที่เรียกว่าแฟนซีสำหรับพ่อแม่เขา? เขาเหลือบมองเห็นกางเกงสีดำคู่กับชุดเสื้อกล้าม เขาไม่สามารถหาเสื้อที่จะใส่ได้แล้ว เขาได้มองเห็นแต่เสื้อลายขวางกับเสื้อลายจุด ไม่มีเสื้อตัวไหนที่เหมาะกับกางเกงตัวนี้ จนกระทั่งเขาเหลือบไปเห็นเสื้อฮู้ดดี้สีขาว หลังจากนั้นก็ใส่มัน
"จะใส่ชุดนั้นเหรอ ?" พ่อและแม่ของเขาได้ถามขึ้น
"อ๊ะ ไม่มีเวลาจะเปลี่ยนแล้ว ไปกันเถอะ!" แม่ของเขามองไปที่นาฬิกาและพูดขึ้น หลังจากนั้นเธอก็ได้ดันเจฟฟ์และสามีของเธอออกไปจากประตูและปิดมัน
พวกเขาได้ข้ามถนนไปที่บ้านของบาบาร่าและบิลลี่ พวกเขาเคาะเข้าที่ประตู และคนที่เปิดประตูรับพวกเขาก็คือบาบาร่า
หลังจากที่เจฟฟ์ได้เดินเข้าไป เขาได้เห็นแต่ผู้ใหญ่และไม่เห็นเด็กสักคนเลย
"พวกเด็กๆอยู่ที่สนามหลังบ้านนะ เธอคิดที่จะไปทำความรู้จักกับพวกเขาหน่อยมั๊ยเจฟฟ์ ?" บาบาร่าพูดขึ้น
หลังจากนั้นเจฟฟ์ก็ได้เดินออกไปที่สนามหลังบ้านและพบว่ามีเด็กคนอื่นๆอยู่เต็มไปหมด
เด็กพวกนั้นวิ่งไปรอบๆ และใส่ชุดคาวบอยและเอาปืนพลาสติกยิ่งเล่นกัน เจฟฟ์ได้แต่ยืนนิ่ง จากนั้นก็มีเด็กคนหนึ่งเดินมาหาเจฟฟ์พร้อมยกปืนกับหมวกของเล่นขึ้นมาและพูดว่า
"อยากจะเล่นมั๊ย ?"
"เอ่อ .. ไม่ล่ะเด็กน้อย ผมแก่เกินไปที่จะเล่นมัน" เด็กคนนั้นมองที่หน้าของเจฟฟ์แล้วพยายามทำหน้าอ้อนๆแบบลูกหมาให้เขาใจอ่อน
"น๊าาาา า นิดนึงนะ เล่นกันหน่อยน๊าา"
"อ่า..ก็ได้" เจฟฟ์ตอบกลับเพราะเริ่มใจอ่อนกับท่าทีเด็กคนนั้น เจฟฟ์ยื่นมือไปหมวกนั้นมาสวมและทำท่าจะยิงเด็กคนนั้น ในตอนแรกเขาคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ไร้สาระ แต่ตอนนี้เขารู้สึกว่ามันสนุกมาก
มันอาจจะไม่ดูสนุกนัก แต่ว่ามันเป็นครั้งแรกที่เขาได้ทำในสิ่งที่เกินขอบเขตการดูแลของลูว์ ดังนั้นเชาเลยได้เล่นกับเด็กพวกนั้นไปสักพักนึง ในขณะที่เขาได้ยินเสียงกลิ้งของอะไรบางอย่าง จากนั้นมันก็ได้โดนเข้าที่ขาของเขา
แรนดี้ เคธ ทรอยดฺ์ ได้กระโดดข้ามรั้วมาพร้อมกับสเก็ตบอร์ด เจฟฟ์ได้วางปืนของเล่นลงพร้อมกับโยนหมวกออกไป แรนดี้ได้มองเจฟฟ์ด้วยสายตาที่โกรธแค้น
"อ้าว .. นั้นเจฟฟ์ใช่รึเปล่าน่ะ ?" แรนดี้พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงยียวน "พวกเรายังทำธุรกิจกันไม่เสร็จเลยไม่ใช่เหรอ ?" เจฟฟ์ได้เห็นรอยช้ำบนจมูกของแรนดี้
"ฉันคิดว่าพวกเราน่าจะยังไม่จบเรื่องสินะ ฉันได้เตะก้นนายไปแล้ว ยังไม่เข็ดเหรอ ? แถมพวกนายยังทำให้พี่ของฉันติดคุกอีก!"
แรนดี้มองเจฟฟ์ด้วยสายตาโกรธแค้น
"โอ้ไม่นะ ฉันจะไม่ทำให้มันเกิดขึ้นอีกแล้ว ใช่ นายจะเตะพวกเราได้ในวันนั้น แต่ไม่ใช่ในวันนี้หรอก!" หลังจากที่แรนดี้พูดเสร็จก็พุ่งเข้าไปหาเจฟฟ์ ทำให้ทั้งสองล้มลงไปกับพื้น
แรนดี้ต่อยเข้าที่จมูกของเจฟฟ์ หลังจากนั้นเจฟฟ์ก็ดึงหูแรนดี้และดึงลงมาพร้อมกับใช้หัวของตัวเองโขกเข้าที่หัวของเขาและผลักแรนดี้ออกไป พวกเด็กๆที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างกรีดร้องออกมาทำให้พวกผู้ใหญ่รีบวิ่งออกมาดู
ทรอย์และเคธได้ชักปืนออกมาจากกระเป๋าพวกเขา
"เฮ้ .. ทุกคน อย่าขยับ! ไม่งั้นได้บินขึ้นสวรรค์กันแน่!" หลังจากนั้นแรนดี้ก็ดึงมีดออกและแทงเข้าที่ไหล่ของเจฟฟ์ เจฟฟ์กรีดร้องออกมาและทรุดลงกับพื้น แรนดี้ใช้ขาของเขาเตะเข้าที่หน้าของเจฟฟ์สามครั้ง เจฟฟ์ก็ได้จับเข้าที่ขาของแรนดี้และบิดมัน เป็นเหตุทำให้แรนดี้ล้มลงกับพื้น
เจฟฟ์ยืนขึ้นและตรงไปที่ประตูข้างหลัง แต่ทรอยด์ได้คว้าตัวเขาไว้
"ต้องการให้ช่วยมั๊ย ?" จากนั้นทรอยด์ก็ได้ยกเจฟฟ์ขึ้นและปาตัวเขาไปที่ประตูทำให้เกิดส่งเสียงดังและหล่นลงกับพื้น เจฟฟ์พยายามยืนขึ้น แต่ก็โดนเตะทำให้ทรุดลงไปอีกครั้ง
แรนดี้ได้เตะเจฟฟ์รัวๆหลายครั้งจนทำให้เจฟฟ์ไอออกมาเป็นเลือด
"มาสิเจฟฟ์! สู้กับฉันสิ!" เขาได้ยกเจฟฟ์ขึ้นและปาเขาเข้าไปที่ห้องครัว หลังจากนั้นแรนดี้ก็เหลือบไปเห็นขวดวอดก้าที่เคาท์เตอร์และหยิบมันมาฟาดเข้าที่กลางหัวของเจฟฟ์
"สู้สิ! สู้!" แรนดี้ยกเจฟฟ์ขึ้นอีกครั้งและโยนเขาไปที่ห้องรักแขก
"เฮ้เจฟฟ์! มองมาที่ฉัน!" เจฟฟ์ได้เหลือบมองขึ้น หน้าของเขาเต็มไปด้วยเลือด "ฉันเป็นคนที่ส่งพี่ไปที่คุก แต่ตอนนี้แกจะได้นั่งอยู่ตรงนี้ และปล่อยให้เขาเน่าเปลื่อยอยู่ในนั้นเป็นเวลาหนึ่งปีงั้นเหรอ!? แกควรละอายใจบ้าง!" เจฟฟ์ลุกขึ้นยืนด้วยขาที่อ่อนแรงพร้อมกับเลือดและวอดก้าบนใบหน้าเขา เจฟฟ์เริ่มที่จะรู้สึกประหลาดอีกครั้ง มันเป็นอันเดียวกับที่เขาได้รู้สึกในตอนนั้น
"โอ้! ในที่สุดนายก็ยืนขึ้น" แรนดี้ได้พูดขึ้นมาและวิ่งเข้าหาเจฟฟ์ หลังจากนั้นที่เกิดขึ้น มีบางสิ่งบางอย่างในตัวเจฟฟ์ได้ควบคุมจิตใจของเขา จิตใจของเขาถูกทำลาย ความรู้สึกนึกคิดของเขาได้หายไป สิ่งที่เขาคิดได้คือ 'การฆ่า'
เขาได้จับแรนดี้ที่พุ่งเข้ามาทุ่มลงกับพื้น เขาได้นั่งคร่อมตัวแรนดี้และต่อยเข้าไปตรงๆที่หัวใจของแรนดี้อย่างรุนแรง การต่อยครั้งนั้นทำให้หัวใจของแรนดี้หยุดเต้นลง แรนดี้อ้าปากค้างเพื่อหอบหายใจพะงาบๆ หลังจากนั้นเจฟฟ์ก็ทุบเข้าที่ตัวของแรนดี้
เขาต่อยแล้วต่อยอีกจนมีเลือดไหลออกมาจากตัวของแรนดี้ แรนดี้สูดหายใจครั้งสุดท้ายจากนั้นเขาก็ตาย
ทุกคนได้มองที่เจฟฟ์ ทั้งผู้ใหญ่และเด็กที่กำลังร้องไห้ ไม่เว้นแม้แต่ทรอยด์กับเคธ
หลังจากนั้นที่พวกเขามีสติ ทั้งสองก็ชี้ปืนเข้าที่หน้าของเจฟฟ์ เจฟฟ์มองเห็นปืนและวิ่งไปที่บันได ทั้งสองวิ่งตามเจฟฟ์ขึ้นไปพร้อมกับจุดไฟไปด้วย
ทรอยด์ยิงปืนใส่เจฟฟ์ครั้งแรก และมันพลาด เจฟฟ์ได้ยินเสียงทั้งสองวิ่งตามมา กระสุนของทั้งสองคนนั้นหมดแล้ว เจฟฟ์จึงวิ่งเข้าไปที่ห้องน้ำ
หลังจากนั้นเจฟฟ์ก็ได้ดึงราวตากผ้าที่อยู่ในห้องน้ำออกมาเพื่อเป็นอาวุธ โดยทั้งสองก็หยิบมีดขึ้นมา
ทรอยด์เหวี่ยงมีดเข้าไปที่ตัวเจฟฟ์ แต่เจฟฟ์สามารถหลบได้แล้วใช้สิ่งที่อยู่ในมือเข้าเหวี่ยงไปโดนหน้าทรอยด์
ทรอยด์ล้มลงไปก่อนจะสลบเพราะความเจ็บปวดจนใบหน้า
เคธที่มีความไวมากกว่าทรอยด์แน่นอน และเขาก็หลบเมื่อเจฟฟ์พยายามที่จะฟาดเขา หลังจากนั้นเคธก็วางมีดลงและพุ่งไปจับคอของเจฟฟ์
เขาผลักเจฟฟ์ไปติดกับกำแพง แรงสั่นสะเทอนทำให้ผงซักฟอกที่อู่บนชั้นหล่นลงมาราดพวกเขา มันเผาพวกเขาทั้งคู่ทำให้ทั้งสองกรีดร้องออกมา
เจฟฟ์พยายามที่จะลืมตาให้ได้มากที่สุด เขายกสิ่งที่อยู่ในมือขึ้นและฟาดเข้าที่หัวเคธอย่างจัง เคธล้มลงและนอนกลิ้งลงไปกับพื้นพร้อมกับเลือดที่ไหลออกมา หลังจากนั้นเขาก็แสยะยิ้มออกมา
"มันตลกมากนักเหรอ ?" เจฟฟ์ได้พูดขึ้นหลังจากเห็นรอยยิ้มนั้น เคธได้หยิบไฟแช็กออกมาแล้วจุดมัน "มันสนุกตรงไหน ?" เคธกล่าว
"มันตลกตรงที่ ตัวนายเต็มไปด้วยผงซักฟอกและแอลกอฮอล์ไงล่ะ!"
เจฟฟ์เบิกตากว้างเพราะความตกใจ เคธโยนไฟแช็กที่จุดแล้วใส่เจฟฟ์ หลังจากนั้นไฟก็เริ่่มที่จะลุกและเผาไหม้ตัวของเจฟฟ์ และลุกโชนอย่างรวดเร็วเพราะแอลกอร์ฮอลจากวอดก้า ผิวหนังของเจฟฟ์ถูกเผาด้วยผงซักฟอก
เจฟฟ์กรีดร้องออกมาอย่างน่ากลัวและถูกไฟครอก เจฟฟ์พยายามที่ดับไฟทุกวิถีทางแต่ก็ไม่มีประโยชน์ เขาได้วิ่งไปที่ห้องโถงแต่ก็ตกบันได จากนั้นทุกคนก็กรีดร้องออกมาเนื่องจากเห็นสภาพของเจฟฟ์ที่กำลังใกล้จะตาย
สิ่งที่เจฟฟ์เห็นเป็นสิ่งสุดท้ายคือ แม่ของเขาและคนอื่นๆที่พยายามจะดับไฟ และเขาก็สลบไป..
เมื่อเจฟฟ์ตื่นมาเขาได้รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างพันรอบใบหน้าเขาอยู่ เขามองไม่เห็นอะไรเลย..
แต่เขารู้สึกได้ว่าที่หัวไหล่ของเขาและตัวของเขามีรอยเย็บ เขาพยายามที่จะลุกขึ้น เขารู้สึกว่ามีสายน้ำเกลือหรือท่ออะไรบางอย่างระโรงระยางเต็มแขนเขาไปหมด และมันก็หลุดออกมาเมื่อเขาพยายามที่จะลุกขึ้น
จากนั้นนางพยายาบาลก็วิ่งเข้ามาและบอกเขาว่า
"เอ่อ..ดิฉันคิดว่าคุณยังไม่สมควรลุกออกจากเตียงตอนนี้นะคะ" และเธอก็ได้ดันตัวเขาให้นอนราบลงกับเตียง และต่อสายน้ำเกลือเข้ากับแขนเขาเหมือนเดิม เขานอนลงกับเตียงอีกครั้ง เขาไม่สามารถมองเห็น เขาไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน
ในที่สุด .. ราวๆชั่วโมงผ่านไป เขาก็ได้ยินเสียงแม่ของเขาดังขึ้น
"ลูกรัก..ลูกโอเคไหม ?" เจฟฟ์ไม่สามารถที่จะพูดได้ เพราะหน้าของเขาถูกพันไว้อยู่ทำให้เขาไม่สามารถที่จะพูดได้
"โอ้ ลูกรัก แม่มีข่าวดีมาบอก หลังจากที่ข่าวแย่ๆนั่นผ่านไป ตำรวจได้พบว่าแรนดี้พยายามทำร้ายลูกก่อน ตำรวจเลยจะปล่อยลูว์ออกมา" เมื่อแม่ของเจฟฟ์พูดจบทำให้เขาต้องการจะไปหาลูว์แต่ทว่าสายน้ำเกลือยังต่ออยู่ที่แขนของเขา
และแม่ของเจฟฟ์ก็พูดอีกว่า ..
"ลูว์จะมาหาลูกภายในวันพรุ่งนี้นะจ๊ะ และลูกทั้งสองจะได้กลับมาอยู่ร่วมกันอีกครั้งหนึ่ง" แม่ของเจฟฟ์เดินมากอดเขาก่อนจะบอกลาเขาและเดินออกไป
หลังจากนั้นหลายอาทิตย์ผ่านไป ที่ครอบครัวมาเยี่ยมเขาในวันที่ผ้าพันแผลจะถูกเอาออกจากใบหน้าเจฟฟ์ ครอบครัวของเขาได้มานั่งดูผลว่าหน้าของเจฟฟ์จะเป็นอย่างไร
ในขณะนั้นที่คุณหมอพยายามเอาผ้าพันแผลออกจากหน้าเจฟฟ์ ทุกคนได้แต่นั่งรอดูอยู่ที่โซฟาตรงนั้น เขานั่งรอจนกระทั้งผ้าพันแผลอันสุดท้ายได้ถูกเปิดออก
"ให้เชื่อมั่นว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ดีที่สุด" คุณหมอกล่าว เขาได้รีบดึงผ้าออกจากใบหน้าของเจฟฟ์ทำให้ผ้านั้นหล่นลงกับพื้น
แม่ของเขาก็กรีดร้องออกมา ส่วนลูว์และพ่อของเขาก็ได้แต่นิ่งงันเพราะกำลังช็อคที่เห็นใบหน้าของเจฟฟ์
"เกิดอะไรขึ้นกับหน้าผมเหรอ ?" จากนั้นเจฟฟ์ก็ได้ลุกขึ้นและวิ่งไปที่ห้องน้ำทันที เขามองภาพตัวเองในกระจกก่อนจะทำสีหน้าเศร้าออกมา หน้าของเจฟฟ์น่ากลัวมาก .. ริมฝีปากของเขาถูกเผาไหม้จนเป็นสีแดงเข้ม ในหน้าของเขากลายเป็นสีขาว ผมสีน้ำตาลของเขาก็กลายเป็นสีดำ เจฟฟ์ได้ยกมือขึ้นแตะหน้าของเขาเบาๆ เขารู้สึกว่าใบหน้าของเขาหยาบกร้านมากจนไม่รู้สึกอะไร เขามองกลับไปที่ครอบครัวของเขาและหันกลับมามองที่กระจกอีกครั้ง
"เจฟฟ์ .." ลูว์ได้พูดขึ้น "มันก็ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นหรอกนะ"
"มันไม่เลวงั้นเหรอ ? มันไม่เลวร้ายขนากนั้นเลยเหรอ ?" เจฟฟ์ได้พูดขึ้นและหัวเราะออกมา "มันน่ะเพอร์เฟ็กที่สุดเลย!" นั่นทำให้ครอบครัวของเขานิ่งไปตามๆกันและตาด้านซ้ายของพวกเขาได้กระตุก นั่นทำให้พวกเขารู้ว่ามันมีลางไม่ดีเกิดขึ้นแน่ๆ
"เอ่อ .. เจฟฟ์ นายโอเคไหม ?"
"โอเคงั้นเหรอ ? เปล่าหรอก ผมรู้สึกมีความสุขมาก! ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า! ดูผมสิ หน้านี้มันเหมาะกับผมมาก! ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า!!" เจฟฟ์กล่าวขึ้นพร้อมกับการหัวเราะที่น่าสะพรึงกลัว เขาไม่สามารถหยุดหัวเราะได้ และในขณะที่เขาพูดและหัวเราะ เขาได้ลูบหน้าของตัวเองพร้อมมองตัวเองในกระจกไปด้วย
ทำไมมันถึงเป็นแบบนั้น ? บางสิ่งบางอย่างที่อยู่ในจิตใจเขาตอนสู้กับแรนดี้ได้ควบคุมเขาไปแล้ว ความรู้สึกนึกคิดไม่มีในจิตใจเขาอีกแล้ว มันมีแต่ความบ้าคลั่ง .. ในตอนนี้เขาไม่ต่างจากเครื่องจักรดีๆนี่เอง โดยที่คนในครอบครัวเขาไม่สามรถรับรู้ได้เลย
"คุณหมอคะ .. ลูกของฉันเกิดอาการกระทบกระเทือนที่สมองรึเปล่าคะ ?" แม่ของเจฟฟ์กล่าวขึ้น
"อา..มันก็น่าจะปกติดี แต่ว่าพวกเราอาจจะให้ยาชากับเขามากเกินไป หากผ่านไปหนึ่งอาทิตย์และพฤติกรรมของเขายังไม่หาย ให้พาเขามาที่นี่ เราจะทดสอบว่าเขาปกติดีรึเปล่า"
"ขอบคุณมากค่ะคุณหมอ .. เจฟฟ์ ได้เวลาไปแล้วนะจ๊ะลูกรัก" แม่ของเจฟฟ์กล่าวขอบคุณหมอและเดินไปหาเจฟฟ์
เจฟฟ์ได้หันกลับไปมองที่กระจก รอยยิ้มของเขายังคงเป็นรอยยิ้มที่โรคจิตอยู่เช่นเคย
"โอเค๊~ ก็ได้ครับแม่~ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า!" แม่ของเขาได้คลุมเสื้อกันหนาวไว้ที่ตัวของเขาและพาเขากลับบ้าน
"นี่คงจะเป็นผลลัพธ์สินะ" ผู้หญิงคนหนึ่งที่นั่งอยู่ ได้พูดขึ้น หลังจากนั้นแม่ของเจฟฟ์ก็ได้มองไปที่กางเกงสีดำและเสื้อฮู้ดสีขาวที่เจฟฟ์ใส่ เลือดที่ติดอยู่ได้ถูกล้างออก ส่วนรอยขาดก็ได้ถูกเย็บเข้าด้วยกัน
แม่ของเจฟฟ์ได้นำเจฟฟ์ไปที่ห้องของหลังจากกลับมาที่บ้าน และพยายามให้เจฟฟ์ใส่ชุดตัวเดิมที่นางพยาบาลให้มา จากนั้นพวกเขาก็ได้จากไป และไม่ได้รู้เลยว่า
นั่นเป็นวันสุดท้ายที่พวกเขาจะได้มีชีวิตอยู่ ..
และในคืนนั้น แม่ของเจฟฟ์ได้ตื่นมาเพราะได้ยินเสียงบางสิ่งบางอย่างในห้องน้ำ เสียงมันเหมือนกับว่ามีใครบางคนร้องไห้อยู่ เธอพยายามเดินไปอย่างช้าๆเพื่อดูว่ามันคืออะไร เมื่อเธอมองเข้าไปในห้องน้ำก็พบเห็นเจฟฟ์ที่กำลังถือมีดอยู่และเฉือนรอยยิ้มของเขาถึงแก้ม
"เจฟฟ์ ลูกทำอะไรน่ะ!?" แม่ของเขาถาม
เจฟฟ์หันกลับไปมองแม่ของเขาและพูดขึ้นว่า "ผมไม่สามารถที่จะยิ้มได้แล้วครับแม่ .. มันอาจจะเจ็บปวดนิดหน่อย แต่ตอนนี้ผมจะสามารถยิ้มได้ตลอดกาลแล้วครับ!"
แม่ของเขาได้สังเกตุว่าตาของเจฟฟ์ ขอบตาของเขาหายไปและเป็นสีดำ
"เจฟฟ์! ตาของลูก!" ตาของเจฟฟ์นั้นดูเหมือนจะไม่สามารถกระพริบได้อีกต่อไป และเจฟฟ์ก็ได้พูดขึ้นว่า ..
"ผมพยายามที่จะลืมตามองใบหน้าของตัวเองแล้ว! แต่ว่ามันกลับปิดลงเอง! .. ผมเลยจัดการเผามันซะ เพื่อที่ผมจะได้เห็นใบหน้าของผมตลอดไปไงล่ะครับแม่!"
แม่ของเจฟฟ์ค่อยๆเดินถอยหลังช้าๆเมื่อเห็นว่าลูกของเธอบ้าไปแล้ว
"แม่ครับ! เป็นอะไรเหรอ ? หน้าผมดูไม่สวยรึยังไง ?"
"เอ่อ..มันก็ใช่นะลูก ใช่ลูกใช่ ลูกสวยมาก .. แล้วก็ปล่อยแม่ไปหาพ่อเถอะลูก เพราะพ่ออาจจะอยากเห็นหน้าของลูกก็ได้" หลังจากที่แม่ของเขาพูดจบก็ได้วิ่งขึ้นไปบนห้องและพยายามที่จะปลุกสามีเธอให้ตื่นขึ้นมา
"ที่รัก! เราต้องไปหาปืนแล้วนะ! เราต้อง.........." ยังไม่ทันที่เธอจะพูดจบเธอก็ได้หันไปมองข้างหลัง และพบว่าเจฟฟ์กำลังถือมีดอยู่
"แม่ .. แม่โกหกผม .." นั่นเป็นสิ่งสุดท้ายที่พวกเขาได้ยินเสียงของเจฟฟ์ หลังจากนั้นเจฟฟ์ก็ได้พุ่งเข้าไปแทงพ่อแม่ของเขา
............
ลูว์ได้สะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะเสียงบางสิ่งบางอย่าง เขาไม่ได้ยินเสียงอย่างอื่นเลย ดังนั้นเขาจึงพยายามที่จะข่มให้ตัวเองหลับลง ในขณะที่ลูว์กำลังกึ่งกลับกึ่งตื่นอยู่ เขารู้สึกแปลกๆว่าเหมือนมีใครบางคนกำลังมองเขาอยู่ ลูว์พยายามจะมองขึ้นไป แต่มือของเจฟฟ์ได้ปิดปากของเขาไว้ เจฟฟ์ค่อยๆยกมีดขึ้นเพื่อที่จะแทงใส่ลูว์ ลูว์พยายามจะดิ้นเพื่อที่จะหนีแต่ถูกเจฟฟ์จับเอาไว้ไม่ให้เขาหนี
"ชู่ววว .." เจฟฟ์ส่งเสียงออกมาเบาๆ



"กลับไปนอนซะ .."